การซื้อขายดัชนีคืออะไร ? เจาะลึกทำความเข้าใจการซื้อขายดัชนีไปกับ STARTRADER
ในตลาดหุ้นนั้น ดัชนีหมายถึงตัวชี้วัดประสิทธิภาพของหุ้นหลายๆ ตัวมากกว่าเลือกเฉพาะหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง
ดัชนีถือป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้แสดงถึงภาพการเปลี่ยนแปลงของตลาดหุ้นได้ การนำดัชนีมาใช้ในการลงทุนจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้นโดยรวมหรือเฉพาะส่วนได้ง่ายขึ้น
และแน่นอนว่า หุ้นบริษัทบางตัวนั้นไม่สามารถสร้างดัชนีขึ้นมาเองได้ บริษัทเหล่านั้นจะต้องมีคุณสมบัติบางอย่างเพื่อสร้างดัชนี้ขึ้นมาเช่น มูลค่าตลาดหรือน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ค่าดัชนีโดยรวมนั้นจะคำนวณโดยการใช้มูลค่ารวมของหุ้นที่เลือก
ยกตัวอย่างของดัชนีเช่น the Standard and Poor’s 500 หรือที่เรียกกันว่า S&P 500 ดัชนี Nasdaq และดัชนี Dow Jones ล้วนเป็นดัชนีที่เป็นที่นิยมทั้งสิ้น
สำหรับ STARTRADER ท่านสามารถทำการลงทุนในดัชนีได้ในรูปแบบ CFD คือสัญญาที่อนุญาตให้ผู้ซื้อขายเก็งกำไรด้วยต้นทุนที่ต่ำ โดยไม่ต้องครอบครองสินทรัพย์นั้นจริง และสามารถเปิดสถานะทั้งซื้อและขาย ที่จะช่วยทำกำไรจากตลาดมากขึ้น
การซื้อขายดัชนี ดีอย่างไร?
ดัชนีแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดที่มั่นคง
การเคลื่อนไหวของตลาดดัชนีมักได้รับผลกระทบโดยหุ้นพื้นฐานที่ประกอบขึ้นเป็นดัชนี หุ้นในภาคส่วนเดียวกันมักจะมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ในตลาดกระทิง ดัชนีที่แสดงถึงการดำเนินงานของภาคธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงนั้นจะมีแนวโน้มที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของดัชนีนั้น และสามารถคาดเดาทิศทางตลาดของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ง่ายมากขึ้น
การซื้อขายดัชนีสามารถช่วยคุณลดความเสี่ยงได้
คุณสามารถกระจายความเสี่ยงพอร์ตของคุณในการซื้อขายดัชนีได้ ดังนั้นจึงช่วยคุณลดความเสี่ยงได้ ดัชนีสามารถกระจายความเสี่ยงได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เนื่องจากการประกอบด้วยหุ้นหลากหลายประเภท ดังนั้น ดัชนีจึงให้นักลงทุนได้ลองลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย
ดัชนีให้คุณได้วิเคราะห์ง่ายกว่าหุ้นรายย่อย
ดัชนีประกอบขึ้นมาจากหุ้นหลากหลายประเภท ดังนั้น ดัชนีจึงช่วยให้เทรดเดอร์เห็นภาพรวมของตลาดและวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและละเอียดมากขึ้น
การซื้อขายดัชนีให้ผลตอบแทนที่ดีได้
ก็เหมือนกับหุ้นที่เป็นส่วนประกอบนั่นแหละ ราคาของดัชนีจะผันผวนและได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่ดัชนีบางตัวก็สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยทั่วไปแล้ว แม้ว่ากองทุนดัชนีุจะไม่ช่วยในการทำกำไรทุกปี แต่ก็มีผลประกอบการที่ดีในอดีต
ดัชนีตัวใด มีการซื้อขายมากที่สุด
S&P 500 – ดัชนี Standard & Poor’s 500 คือหนึ่งในตัวชี้วัดตลาดหุ้นของสหรัฐฯ เนื่องจากจะมีระบบติดตามการดำเนินงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ทั้งหมด 500 บริษัทในหลายอุตสาหกรรม
NASDAQ Composite (สหรัฐฯ) ดัชนี้ตัวนี้จะวัดผลการดำเนินงานของบริษัทสายเทคโนโลยีและติดตามประสิทธิภาพของบริษัทมากกว่า 3,000 บริษัทที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (สหรัฐฯ) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (สหรัฐฯ) คือหนึ่งในดัชนีที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมที่สุดในโลก โดยมีการวัดผลการดำเนินงานของ 30 บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
Nikkei 225 (ญี่ปุ่น) คือดัชนีหลักของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ณ ปัจจุบัน โดยจะติดตามการดำเนินงานของบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นทั้ง 225 บริษัท
The FTSE 100 (สหราชอาณาจักร) คือดัชนีหลักของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยจะวัดผลการดำเนินงานของ 100 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
การซื้อขายดัชนี้จะมีขั้นตอนดังนี้
อย่างแรก คุณจะต้องเลือกประเภทของดัชนีที่คุณชอบ จากนั้นก็เปิดบัญชีเพื่อเริ่มเส้นทางการซื้อขายดัชนี้ได้เลย หลังจากที่เลือกดัชนีที่คุณอยากจะซื้อขายได้แล้ว ก็ให้ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายก่อน เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ก็ให้ตั้งจำนวนออเดอร์ที่ต้องการซื้อหรือขาย ต่อไปนี้คือการอธิบายขั้นตอนแต่ละอย่างอย่างละเอียด
เลือกดัชนีที่คุณอยากจะซื้อขาย โดยจะมีให้ดัชนีคุณได้เลือกลงทุนมากมายเช่น
a. ฟิวเจอร์ส
ในการซื้อขายประเภทนี้ จะเป็นการที่คุณทำสัญญาซื้อขายดัชนีโดยกำหนดวันและราคาไว้ล่วงหน้า
b. กองทุน ETF
การซื้อขายประเภทนี้จะเหมือนกับหุ้นของบริษัททั่วไป โดยจะให้ความรู้สึกในการสัมผัสถึงประสิทธิภาพของดัชนีของสินทรัพย์อ้างอิง
c. CFDs
เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาด้วยการใช้ CFD โดยไม่ต้องครอบครองหลักทรัพย์จริง
เปิดบัญชีซื้อขายดัชนี
เมื่อคุณเลือกประเภทของการซื้อขายดัชนีที่คุณชอบได้แล้ว คุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีการกำกับควบคุม และพร้อมมอบผลประโยชน์ เช่นเลเวอเรจระดับสูงและสเปรดที่แคบให้กับคุณได้
เลือกดัชนีที่คุณอยากจะซื้อขาย
เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกดัชนีที่เหมาะกับแนวทางการซื้อขายของคุณ โดยจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงส่วนบุคคลที่คุณยอมรับได้ เงินทุนที่คุณมีอยู่ในมือ และการเลือกถือโพสิชันเป็นเวลาสั้นหรือนาน
การตัดสินใจเลือกซื้อหรือขายในการลงทุนในดัชนี
ถ้าคุณเห็นว่าผลประกอบการของบริษัทในดัชนีนั้นดี คุณก็เลือกเปิดโพสิชันที่คุณคิดว่าจะทำกำไรได้ถ้ามูลค่าของดัชนีนั้นพุ่งขึ้น ในทางกลับกัน คุณสามารถขายโพสิชันที่มีผลตอบแทนน้อยกว่าดัชนี
ตั้งออเดอร์สั่งหยุดการซื้อขายและออเดอร์ซื้อขายแบบ limit order
ออเดอร์สั่งหยุดการซื้อขายและ limit order นั้นคือเครื่องมือที่สำคัญมากในการควบคุมความเสี่ยงในการซื้อขาย ออเดอร์สั่งหยุดการซื้อขายคือการบังคับปิดโพสิชันของคุณเมื่อราคาตกลงไปต่ำกว่าราคาของตลาด ณ ปัจจุบัน ส่วน Limit order คือการสั่งปิดโพสิชันเมื่อราคาพุ่งไปแตะถึงระดับที่พอใจ
การซื้อขายดัชนี มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?
ก็เหมือนกับการซื้อขายและการลงทุนอื่นๆ การซื้อขายดัชนีก็มีความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ต้องระวัง ประสิทธิภาพของดัชนีจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยเฉพาะเมื่อตลาดกำลังผันผวน ท้ายที่สุดนี้ ดัชนีนั้นประกอบด้วยหุ้นของบริษัทหลายแห่ง และการเปลียนแปลงของบริษัทใดบริษัทหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อดัชนีนั้น
นอกจากนี้ ดัชนียังได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นของสกุลเงิน ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอาจมีผลต่อมูลค่าของดัชนี อีกหนึ่งสิ่งอันตรายคือความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่รวดเร็วของดัชนีก็เช่นกัน จึงสรุปได้ว่า การวางกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงคือสิ่งสำคัญอย่างมากในการลงทุนหุ้น
ที่ STARTRADER เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงการซื้อขายดัชนีจากทั่วโลก เปิดบัญชีจริงวันนี้เพื่อรับประโยชน์จากสเปรดจากที่ต่ำและการซื้อขายที่รวดเร็วของเรา แพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพอย่าง MT4 และ MT5 : https://www.startrader.com/th/indices/
*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด